หลวงปู่ครูบาอินตาเจ้าอาวาสวัดวังทอง ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน เป็นพระมหาสังฆเถระที่มีอายุพรรษา อาวุโสเป็นลำดับที่ 2 ในแผ่นดินล้านนา รองจากครูบาดวงดี และอาวุโสสูงสุด ในจังหวัดลำพูน อายุ 100 ปี 78 พรรษา ปัจจุบันครูบาอินตาท่านยังมีชิวิตอยู่และมีสุขภาพแข็งแรงและยังรับกิจนิมนต์ในงานพุทธาภิเษกปลุกเสกพระ อยู่ ตลอดเวลา
ครูบาอินตา เกิดวันเสาร์ แรม 10 ค่ำเดือน 2 ตรงกับวันที่ 12 มกราคม 2453 ปีจอ (ปีเส็ด ) ซึ่งอยู่ในช่วง แผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลเจ้าเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ครูบาอินตา เกิดที่ บ้านเหมืองง่า ม.2 ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน โยมพ่อชื่อนายตา โยมแม่ชื่อนางบัวแก้ว นามสกุล ธนาขันธรรม ท่านเป็นหลานท่านเจ้าคุณพระญาณมงคล (ครูบาปวน อภิชโย ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำพูน รูปที่ 4 อดีตเจ้าคณะแขวงลี้ อดีตเจ้าอาวาสวัดเหมืองง่า อยู่ในครอบครัวชาวนา ซึ่งในขณะนั้นเป็นอาชีพที่มีฐานะยากจน มีพี่น้องร่วมบิดา มารดา 5 คน พระเดช พระคุณเป็นคนสุดท้อง และมีน้องบิดาเดียวกัน แต่ต่างมารดาอีก 5 คน
ครูบาเมื่อเป็นเด็กชาย อินตา ธนาขันธรรม อายุ 7 ขวบ (พ.ศ. 2460) โยมพ่อแม่นำมาฝากกับครูบาปวน อภิชโย ขณะนั้นดำรงสมณศักดิเป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะแขวงชั้นเอกราชทินนามที่พระครูมหาศีลวงค์ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะแขวงเมืองลำพูนเจ้าอาวาสเหมืองง่า ครูบาฯได้เป็นเด็กวัดและได้เรียนหนังสือครั้งแรก กับครูบาปวน และได้เรียนหนังสือพื้นเมือง(ภาษาล้านนา) ในสมัยนั้น ที่โรงเรียนวัดเหมืองง่า ซึ่งเป็นโรงเรียนแรก ในตำบลเหมืองง่า ในจบชั้นประถมปีที่ 4 พ.ศ. 2464
ระหว่างเป็นเด็กวัดและบวชเป็นสามเณรอยู่นั้น ครูบาฯ ได้เรียนคาถาและวิทยาคมจากครูบาปวน เล่ากันว่าเป็นผู้ที่ถือของคลังและวิทยาคมเป็นอย่างมาก พ่อเจ้าเหนือหัวพลตรี มหาอำมาตย์โทเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหอคำเมืองนครลำพูน ถึงกับมีความเลื่อมใสเป็นพิเศษ ซึ่งพระสงฆ์ที่เจ้าเหนือหัวทรงให้ความเคารพนับถือเป็นพิเศษมีอยู่ 4 รูป ด้วยกันคือ1. ครูบาธรรมชัย ธัมมัมชโย วัดประตูป่า ต.ประตูป่า อ.เมือง ลำพูน 2. ครูบาเจ้า ศรีวิชัย วัดบ้านปาง ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ ลำพูน3. พระญาณมงคล (ครูบาปวน อภิชโย) วัดเหมืองง่า ต.เหมืองง่า อ.เมืองลำพูน 4. ครูบาติกขะปัญโญ วัดวังทอง อ.เมือง ลำพูน ครูบาติกขะรูปนี้ ถูกบังคับให้สละสมณเพศ หลังจาก หลวงจักรคำฯ ถึงแก่พิราลัย และครูบายังได้เรียนคาถาวิทยาคม ยังได้สืบทอดวิถีการสะเดาะเคราะห์ และได้ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ครูบาศรีวิชัย ได้ 3 ปี ได้กราบลาครูบาศรีวิชัยเดินทางกลับวัดเหมืองง่า เพื่อที่จะเข้าพิธีญัตติจตุถกรรมวาจาเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2474 ในครั้งนั้น ครูบาปวน รักษาการเจ้าคณะนครลำพูน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาสุดใจ ญาณวุฒิ วัดพระธาตุหริภุญชัย เป็นพระกรรมวาจารย์ พระครูสมุห์จรูญ วัดพระธาตุหริภุญชัย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานามว่า ธนักขันโธ
ครูบาติกขะ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังทอง เจ้าจักรคำฯ ให้ความนับถือศรัทธาเป็นพิเศษ หลังจากเจ้าจักรคำถึงแก่พิราลัย พ.ศ. 2584 พระครูบาติกขะเป็นพระผู้ที่เข้มงวด ในเรื่องการปฏิบัติและเป็นผู้ที่ถือของขลัง ในครั้งนั้นได้มีชาวบ้าน ไปแจ้งพ่อแคว่น (กำนัน) ว่าครูบาติกขะได้ฆ่าวัวของชาวบ้านว่ามากินหญ้าหน้าวัด เพราะวัวของ ชาวบ้านได้มาทำความเสียหายแก่วัดวังทอง ครูบาติกขะได้ถือก้อนหินเท่าลูกกำปั้นปาถูกกะโหลกหัวของวัวเสียชีวิต กำนันในสมัยนั้นได้มาสอบสวนหาสาเหตุท่านไม่ยอมพูด กำนันได้ใช้กำลังชกต่อยครูบาติกขะ ท่านไม่ได้ตอบโต้แต่พอตอนกลางคืนกำลังพักผ่อน ได้ล้มพับลงกับที่แล้วมีเลือดไหลออกปาก จมูก จนเสียชีวิตกับที่สร้างความแปลกใจให้แก่ลูกบ้าน ครอบครัว เป็นอย่างยิ่ง ทำให้ทุกคนสงสัยว่า ครูบาติกขะเป็นผู้ที่ให้กำนันเสียชีวิต เพราะเชื่อในวิทยาคมของครูบาติกขะ ซึ่งชาวล้านนาเรียกพิธีนี้ว่า "การตู้ของใส่ของ"สาเหตุอย่างถึงที่ ครูบาติกขะถูกบังคับให้สละ สมณเพศ เพราะว่าครูบาติกขะเป็นผู้ไม่เกรงกลัวอำนาจการปกครอง ทำให้คณะกรรมการและคณะสงฆ์ยำเกรง จนทำให้คณะสงฆ์ชั้นปกครองไม่สามารถทำงานได้สะดวกเพราะเกรง ในวิทยาคมของครูบาติกขะ
เมื่อเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 ครูบาอินตาได้อาพาธหนัก และเข้ารักษาที่ รพ.ลำพูน จนถึงวันที่ 28
กุมภาพันธ์ 2532 อาการยังไม่ดีขึ้นและทรุดหนักจนไม่รู้สึกตัวแพทย์จึงนำส่งโรงพยาบาลแมคคอร์มิค จังหวัดเชียงใหม่ แพทย์ได้นำครูบาอินตาเข้าห้อง ไอซียู และไม่รู้สึกตัวถึง 8 วัน พอถึงวันที่ 7 มีนาคม 2532 แพทย์ได้มาแจ้งว่าครูบาอินตามรณภาพแล้ว ทำให้ลูกศิษย์ ต่างเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก ขณะที่แพทย์จะฉีดยาศพ ปรากฏว่า เข็มฉีดยากับแทงไม่เข้าและได้หักงอ แพทย์จึงตัดสินใจไม่ฉีดยาศพ และเมื่อจะอาราธนาศพขึ้นรถเพื่อไปส่ง ณ วัดวังทอง ครูบาอินตา ก็รู้สึกตัวและเหนื่อยหอบ สร้างความตกในแก่แพทย์ และได้นำครูบาอินตาเข้าห้อง ไอซียู และรักษาจนหายปกติ พระครูถาวรศีลคุณ หรือหลวงปู่ครูบาอินตา ธนกฺขนฺโธ เจ้าอาวาสวัดวังทอง ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน ได้มรณภาพด้วยอาการอันสงบแล้วด้วยโรคชรา ในเช้าวันพฤหัสบดี ที่ 18 มิ.ย 2552 เวลา 06.00 น. |