:: 超好的泰國佛牌 - 帕坤平拍 Pra Kun Paen Amulet Thai Buddha Amulets     โดย พร  บางระจัน    
 

FAMOUS AMULET

 

TRAVEL TOOLS

 

id7500003000070

 


 

Phra Kru, Phra Khun Phaen, 大城府, 兵马俑

Phra Khun Phaen amulet, Ban Krang Temple, Suphan Buri, round face printing

Name of the image of Buddha: Phra Khun Phaen amulet
Supporter of casting: Ban Krang Temple
Location of Casting or Finding: Ban Krang Temple, Suphan Buri
Year of Casting: 2165BE (400yrs)
Praise of the image of Buddha: Harmproof , radiating with charm and bring good fortune,trade
prosperous ,protect property ,house keeping

Product: 061

Price: 3,000,000.00 baht

护身符名称,帕坤帕,班克朗寺,素攀武里,圆脸印刷

Phra Khun PhaenBan Krang 寺、素攀武里的详细信息

 

在素攀武里的主要护身符中,“Phra Khun Phaen”这个名字经常出现在许多流行的护身符中,其中之一是 Phra Khun PhaenBan KrangMuang Suphan Buri这是一个古老的护身符建了几百年,据说佛教艺术之美优秀至于佛慈悲、伟大、魅力、刀枪不入,是无法言喻的。很难找到任何始终相同的印刷品。长期以来一直是走在行业前沿的人气高僧。

 

Phra Kru Wat Ban KrangPhra DeeSuphanburi 的著名佛像

 

Ban Krang 寺是著名的“Phra Khun Phaen, Ban Krang”发源地,位于素攀府的 Tambon Si Prachan,位于 Tha Chin 河或素攀河的东岸。 Si Prachan 办事处对面这座寺庙是一座古老的寺庙。自大城府时期创建1904 年左右从 Wat Ban Krang 地区旧柏威夏后面的佛塔破碎,据说当一个新的护身符被打破时僧侣和村民带来了所有的僧侣许多印刷品把它放在精舍附近的大菩提树下当年的庙童带来护身符被放置在素攀武里河中玩耍和竞争。这很有趣,因为在那些日子里,班克朗寺没有像今天这样的价值和受欢迎程度。

 

“Phra Khun Phaen”这个名字的由来

 

名称“Phra Khun Phaen”,在素攀市或 Khun Phaen,以哪个城市为准是名字呼唤后者的僧侣因为古人创造了护身符从未找到证据有一个和尚的名字只有去挖掘护身符的后人才有名字。班克朗寺护身符一样的方法当一个新地牢被打破时,没有名字。当时的素攀武里人只被称为“Phra Wat Ban Krang”的意思是如果它是唯一的,它被称“Phra Ban Krang Deo”,如果是一对佛像,就叫做“Phra Ban Krang Koo”,后来被命名Phra Khun Phaen,一些Phra Plai Single,一些Phra Plai Kuo,一些Khun Phaen护身符名字的由来,相信这些和尚的名字都想押韵。与文学中的人物著名的 Khun Chang-Khun Phaen 起源于素攀武里地区,因此 Phra Ban Krang 这个词逐渐消失了圣洁在佛的力量下与 Khun Wiset 在文学中的 Khun Phaen 样,尤其是在魅力和慈悲方面,可能是这个原因因此称Phra Khun Phaen 下降

 

Wat Ban Krang 护身符分类

 

班克朗寺护身符了解根据创作格言有84,000件。古代的经文当护身符被打破时,还有人分开单独的印刷品根据不同的佛教特点其中有30多个版画或更多,其中一些被称“Phra Khun Phaen”,其中有流行的版画,如大型五边形版画。小五边形印花大字体小字打印总统印花藤蔓、柔软的手臂等。有些图案被称为“Phra Plai”,意思是 Khun Phaen 的孩子。都有一对并排印的叫做“Phra Plai Khu”和一个单独的护身符叫做“Phra Plai Single”,每个印仍然分Twin Plai、巨脸、吉祥脸、隐士脸等几十种图案、脸型Angela单面、竖版、人字纹等。

老人们选择命名那个护身符叫做Khun Phaen这种类型叫做Plai。新一代可能不知道标准或明确的来源,我猜。叫Khun Phaen的人大概会看到佛像的艺术造型,如果任何佛像有美丽、醒目的艺术形式,首先叫Phra Khun Phaen。美味被称 Phra Plai 以使其与众不同......

 

Phra Khun Phaen,巴生寺,Ban Krang 创建时代

 

Phra Khun Phaen, Ban Krang Temple, 素攀武里让我知道它是大城府中期的护身符带着美丽的美味独一无二最重要的是,Phra Khun Phaen 的数量Krang庙的这个房子。有一种类型是“Phra Khun Phaen,大五边形印刷,具有相同的特征和艺术从佛塔中爆发出来的“Phra Khun Phaen Glazed” Wat Yai Chaimongkol大城府这座佛塔记录在纳瑞宣大帝的编年史中请根据 Wat Pa Kaew Somdej Phra Wanrat 的建议在 2135 年建造它,以纪念国王陛下。与缅甸的 Phra Maha Uparaja Iuthheete 胜利,这座宝塔被称为“Phra Chedi Chai Mongkhon”,但村民称它大佛塔,因为它是佛塔大城府最大的根据自古以来的传统,宝塔建成时将创建一个包含

 

传承佛法被视为具有强大的慈善事业Phra Khun Phaen Coated Khong 建成被包含在宝塔中当时的Wat Yai Chaimongkol

在素攀武里府的 Wat Ban Krang Wat Yai Chaimongkol 上漆的 Phra Khun Phaen Phra Khun Phaen 的佛教艺术的相似之处,尤其是这个大的五边形印刷品。比较两个和尚时会看到很小的差异尤其是模具雕刻的线条和图案让我相信当时雕刻的工匠很可能是同一个人或同一学校的艺术家家庭。创造的时代可能没有太大的不同。或者可以同时拆包并同时打印但是有单独的宝塔,所以假设Phra Khun PhaenBan Krang Temple就足够了会生活在统治时期纳瑞宣大帝,或大约 400 年前。

 

自然班克朗寺护身符

 

พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่างสุพรรณบุรี พิมพ์หน้ากลม
รหัสสินค้า: 061

Price: 3,000,000.00 baht
 

ชื่อพระเครื่อง          พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่างสุพรรณบุรี พิมพ์หน้ากลม

รายละเอียด           พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี

 

ในบรรดาพระเครื่องชั้นนำของเมือง สุพรรณบุรี มักมีชื่อของ พระขุนแผนรวมอยู่ในพระกรุยอดนิยมต่างๆ จำนวนมาก หนึ่งในจำนวนนั้น คือ พระขุนแผน กรุบ้านกร่าง เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นพระกรุโบราณ มีอายุการสร้าง มาหลายร้อยปี กล่าวกันว่าความงดงามของพุทธศิลปะ นั้นโดดเด่นยิ่งนัก ส่วนพุทธคุณนั้น ก็เลิศล้ำเกินคำบรรยาย ทั้งเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ตลอดจน คงกระพันชาตรี ยากที่จะหาพระพิมพ์ใดเสมอเหมือน จัดเป็นพระยอดนิยมชั้นแนวหน้าของวงการ มานาน

 

พระกรุวัดบ้านกร่าง พระดี พระดังแห่งเมืองสุพรรณบุรี

 

วัดบ้านกร่าง อันเป็นแหล่งกำเนิด พระขุนแผน กรุบ้านกร่างอัน เลื่องชื่อนี้ ตั้งอยู่ที่ ตำบล ศรีประจันต์ จังหวัด สุพรรณบุรี อยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำท่าจีน หรือ แม่น้ำสุพรรณบุรี ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอศรีประจันต์ วัดนี้เป็นวัดโบราณ ที่สร้างมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา พระเครื่อง กรุวัดบ้านกร่าง แตกกรุจากเจดีย์หลังพระวิหารเก่าในบริเวณ วัดบ้านกร่าง เมื่อราว พ.ศ. 2447 มีเรื่องเล่ากันว่า ตอนที่พระแตกกรุออกมาใหม่ๆ พวกพระสงฆ์และชาวบ้าน ได้นำพระทั้งหมด มากมายหลายพิมพ์ มาวางไว้ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ใกล้วิหาร เด็กวัดในสมัยนั้นได้นำ พระที่วางไว้มาเล่นร่อนแข่งขันกันในลำน้ำสุพรรณบุรี เป็นที่สนุกสนาน เนื่องจากว่า ในสมัยนั้น พระวัดบ้านกร่าง ยังไม่มีมูลค่า และ ความนิยมมากมายเหมือนดังเช่นปัจจุบัน

 

ที่มาแห่งชื่อ พระขุนแผน

 

ชื่อ พระขุนแผนทั้งของเมืองสุพรรณ หรือ ขุนแผน เมืองไหนก็ตาม เป็นการเรียกชื่อ พระของคนสมัยหลัง เพราะคนโบราณ สร้างพระพิมพ์ ไม่เคยพบหลักฐาน ว่ามีการตั้งชื่อพระเอาไว้ด้วย มีแต่คนรุ่นหลังที่ไปขุดพบพระพิมพ์เป็นผู้ตั้งชื่อให้ทั้งสิ้น พระกรุวัดบ้านกร่าง ก็เช่นเดียวกัน เมื่อแตกกรุใหม่ๆ ก็ไม่มีชื่อ คนสุพรรณบุรี ยุคนั้นเรียกกันเพียงว่า พระวัดบ้านกร่างคือถ้าเป็นพระองค์เดียวก็เรียก พระบ้านกร่างเดี่ยวถ้าเป็นพระ 2 องค์คู่ติดกันก็เรียก พระบ้านกร่างคู่ต่อมาจึงมีการตั้งชื่อให้เป็น พระขุนแผน บ้าง พระพลายเดี่ยว บ้าง พระพลายคู่ บ้าง ที่มาของชื่อ พระพิมพ์ ขุนแผน เหล่านี้ เชื่อว่าคนตั้งชื่อคงต้องการให้คล้องจองกลมกลืน กับตัวละครในวรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ที่โด่งดัง อันมีถิ่นกำเนิดในย่านสุพรรณบุรี คำว่า พระบ้านกร่าง จึงค่อยๆ เลือนหายไป หรืออีกนัยหนึ่ง ชื่อของ พระขุนแผน อาจได้มาจากการที่มีผู้บูชากราบไหว้ หรือ อาราธนานำติดตัวไปไว้ป้องกันอุบัติภัย ต่างๆ แล้วได้ประจักษ์ ความศักดิ์สิทธิ์ ในอำนาจพุทธคุณ ที่มี่คุณวิเศษ เหมือน ขุนแผนในวรรณคดี โดยเฉพาะ ด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม อาจด้วยเหตุนี้ จึงเรียกขื่อว่า พระขุนแผนสืบมา

 

การจำแนกพิมพ์ทรงพระกรุวัดบ้านกร่าง

 

พระกรุวัดบ้านกร่าง เข้าใจว่ามีจำนวนถึง 84,000 องค์ตามคติการสร้าง พระพิมพ์ในสมัยโบราณ เมื่อพระแตกกรุขึ้นมาก็ได้มีผู้แยกแบบ แยกพิมพ์ต่างๆ ตามความแตกต่างของพุทธลักษณะ ซึ่งมีจำนวนกว่า 30 พิมพ์ขึ้นไป บางแบบ ก็เรียกว่า พระขุนแผนซึ่งมีพิมพ์ยอดนิยม เช่น พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่ พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกเล็ก พิมพ์ทรงพลใหญ่ พิมพ์ทรงพลเล็ก พิมพ์พระประธาน พิมพ์เถาวัลย์เลื้อย พิมพ์แขนอ่อน ฯลฯ บางแบบก็เรียกว่า พระพลายอันหมายถึงลูกของขุนแผน ซึ่งมีทั้งที่พิมพ์เป็นคู่ติดกัน เรียกว่า พระพลายคู่และองค์เดี่ยวๆ เรียกว่า พระพลายเดี่ยวซึ่งแต่ละพิมพ์ก็ยังแบ่งแยกออกไปอีกเป็นสิบๆ พิมพ์ เช่น พลายคู่หน้ายักษ์ หน้ามงคล หน้าฤาษี หน้าเทวดา พลายเดี่ยวพิมพ์ชะลูด พิมพ์ก้างปลา ฯลฯ

การที่คนรุ่นเก่า เลือกที่จะตั้งชื่อ พระพิมพ์นั้นว่า ขุนแผน พิมพ์นี้เรียกพลาย คนรุ่นใหม่ คงไม่ทราบหลักเกณฑ์ หรือ ที่มาชัด ซึ่งคงเดาใจว่า คนที่ตั้งชื่อ ขุนแผน คงจะดูรูปร่างศิลปะในองค์พระ ถ้าพระองค์ ใดมีรูปแบบศิลปะสวยงามสะดุดตา ก็เรียกว่า พระขุนแผน ไว้ก่อนส่วนพระพิมพ์ใดหย่อนคุณค่าทางด้านศิลปะความงาม ความอ่อนช้อยก็ตั้งชื่อเรียกว่า พระพลาย เพื่อให้แตกต่างกันไป

 

อายุการสร้างของ พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง

 

พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี เมื่อพิจารณาจากศิลปะแล้ว บอกให้รู้ว่าเป็น พระในสมัยอยุธยาตอนกลาง โดยมีศิลปะที่อ่อนช้อยสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่สำคัญที่สุด คือ ในจำนวนพระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่างนี้ มีอยู่พิมพ์หนึ่งนั่นคือ พระขุนแผน พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่มีลักษณะและศิลปะเหมือนกับ พระขุนแผนเคลือบที่แตกกรุออกมาจากเจดีย์ วัดใหญ่ชัยมงคล พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเจดีย์องค์นี้มีบันทึกไว้ในพงศาวดาร ว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โปรดให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2135 ตามคำทูลแนะนำของสมเด็จพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ว เพื่อเฉลิมพระเกียรติ แห่งชัยชนะในการทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา แห่งพม่า พระเจดีย์องค์นี้ชื่อว่า พระเจดีย์ชัยมงคลแต่ชาวบ้านเรียกว่า พระเจดีย์ใหญ่เพราะเป็นเจดีย์ ที่ใหญ่ที่สุดในอยุธยา ซึ่งตามประเพณีมาแต่โบราณว่า เมื่อสร้างพระเจดีย์แล้ว จะสร้างพระพิมพ์บรรจุไว้ด้วย

 

เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ถือกันว่าได้กุศลแรง พระขุนแผนเคลือบคงสร้าง เพื่อบรรจุไว้ในเจดีย์ วัดใหญ่ชัยมงคลในครั้งนั้น

ความคล้ายคลึงกันของพุทธศิลป์ ของ พระขุนแผน เคลือบกรุวัดใหญ่ชัยมงคล กับ พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี โดยเฉพาะพิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่นี้ เมื่อนำพระทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน จะเห็นความแตกต่างกันน้อยมาก โดยเฉพาะเส้นสายและลวดลายการแกะของแม่พิมพ์ ทำให้น่าเชื่อว่า ช่างที่แกะสมัยนั้น คงเป็นคน คนเดียวกัน หรือ สกุลช่างศิลปะในสำนักเดียวกัน อายุการสร้างอาจไม่แตกต่างกันมากนัก หรืออาจแกะในคราวเดียวกัน และพิมพ์ในคราวเดียวกัน แต่ได้มีการแยกบรรจุเจดีย์ ต่างกัน ดังนั้น จึงพอที่จะสันนิษฐานได้ว่า พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง คงมีอายุอยู่ในราวรัชกาล สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ ประมาณ 400 ปีล่วงมาแล้ว

 

ลักษณะธรรมชาติ พระกรุวัดบ้านกร่าง

 

พระกรุวัดบ้านกร่าง โดยทั่วไปไม่ว่า จะเป็น พิมพ์พระขุนแผน พระพลายเดี่ยว พระพลายคู่ นั้นเป็นพระเนื้อเดียวกัน คือ เนื้อดินเผาผสมว่านและเกสรดอกไม้ นานาชนิด ไม่ปรากฏว่ามีเนื้อประเภทอื่น ลักษณะเนื้อพระ มีทั้งชนิด เนื้อละเอียด และ เนื้อหยาบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทเนื้อหยาบที่มีส่วนผสมของกรวดทรายมาก มีทั้งแดง สีพิกุล สีเขียว และสีดำ ตามความอ่อนแก่ของความร้อนในขณะเผาไฟ แต่ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหยาบหรือละเอียด สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ต้องมี ว่านดอกมะขาม มี แร่ทรายเงิน แร่ทรายทอง และ รอยว่านหลุดอยู่ด้วยทุกองค์ รอยว่านหลุด ดังกล่าว เป็นร่องเล็กๆ สัณฐานไม่แน่นอน เป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยม บ้าง สามเหลี่ยม บ้าง และเป็น ร่องลึก ร่องตื้น ก็ได้ รอยว่านหลุด นี้ ถือเป็นเอกลักษณะของเนื้อพระกรุวัดบ้านกร่างที่จะขาดเสียมิได้ในการพิจารณา

 

นอกจากนี้ พระกรุวัดบ้านกร่าง ยังเป็นพระกรุที่ผิวสะอาด เนื่องจาก กรุพระมีสภาพดี ไม่จมดินหรือถูกน้ำท่วมขัง ดังนั้น จึงไม่มีคราบขี้กรุเกาะติดหนาให้เห็น จะมีเพียงแต่ฝ้ากรุบางๆ ฉาบติดอยู่ แต่ถ้าผ่านการใช้หรือการสัมผัสก็จะเหลือผิวฝ้ากรุตามซอกองค์พระ เท่านั้น พระกรุวัดบ้านกร่าง เป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ว่าจะเป็น พระขุนแผน พระพลายเดี่ยว พระพลายคู่ ล้วนแต่เป็นพระกรุที่มีอายุหลายร้อยปี และมี พุทธคุณสูงส่ง ทางด้าน เมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาด และ คงกระพันชาตรี เป็นเลิศ จึงเป็นที่นิยมเสาะหากันมานานแล้ว แม้ปัจจุบันความนิยมก็ไม่ได้ลดลงน้อยลงไปเลย……..

 

 

 

 

 
PRAKUNPAN AMULET CENTER |THAILAND
236/2 หมู่ 5 ,ถนน เชียงใหม่ ลำพูน ,ตำบลยางเนิ้ง,อำเภิสารภี จังหวัดเชียงใหม่ 50140
Tel: 66-081-7842076,66-093-3361995  whatapp:0933361995
http://www.prakunpan.com  e-mail:amuletcenter@hotmail.com
พระขุนแผนอยุธยา โดย พร บางระจัน:
236/2 หมู่ 5 ,ถนน เชียงใหม่ ลำพูน ,ตำบลยางเนิ้ง,อำเภิสารภี จังหวัดเชียงใหม่ 50140
Tel: 66-081-7842076,66-093-3361995  whatapp:0933361995
http://www.prakunpan.com e-mail:amuletcenter@hotmail.com
 
Copyright © 2006 Thailand Amulet Center. Website Terms of Use   |   Privacy Statement Find us on Youtube Facebook